
เเมนฯ ซิตี้ 3-2 ลิเวอร์พูล เเพ้ด้วยความผิดพลาดที่มากกว่า ให้กำลังใจทีมกันต่อ
ฟุตบอลโลกผ่านพ้นไปเเล้ว คราวนี้ก็เข้าสู่โหมดสโมสรเเบบเดือดๆ กับคาราบาว คัพ รอบ 4 ลิเวอร์พูล จะบุกไปเยือนไม้เบื่อไม้เมาอย่าง เเมนฯ ซิตี้ เพื่ออยู่ในเส้นทางการป้องกันแชมป์ต่อ การจัดตัวของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วันนี้ส่งตัวจริงผสมสำรอง นำทัพโดย KDB เเละ ฮาเเลนด์ ในขณะที่เหล่าผู้เล่นที่ทีมชาติเข้าถึงรอบก่อนรอง มีชื่อข้างสนาม
ฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ เอง วันนี้ยังสานต่อชุดเดิมจากเกมอุ่นเครื่องใน ดูไบ คัพ ใช้ มาติป-โกเมซ เป็นคู่เซ็นเตอร์ เเดนกลางไวใจให้ บาจเซติช ยืนเป็นตัวรับ โดยมี โม ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ เเละ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ คอยทะลวงตาข่าย น่าสนใจว่าวันนี้ คาร์วัลโญ่ ได้รับโอกาสลงเเทนบ๊อบบี้ ที่เจ็บ(ไม่หนัก)จะได้เล่นตัวรุกฝั่งซ้ายตามเดิมหรือ เเละเจ้าตัวจะทำให้ดีเเค่ไหน มารอดูกัน!
เกมเริ่ม!!! เป็น ซิตี้ ที่เพรสสูงบุกกดใส่ทันที ส่วนลิเวอร์พูล หวดขึ้นหน้าพลาดเกือบโดนเล่นงานเหมือนกัน คาร์วัลโญ่ สรุปเเล้ว คล็อปป์จับเขาลงเล่นฝั่งซ้าย นาทีที่ 6 ฮาเเลนด์ หลุดกับดักล้ำหน้าไปยัดให้ พาลเมอร์ เเปโล่งๆไปไหนก็ไม่รู้ รอดตัวไป ไม่ทันขาดคำ! เดอบรอยด์ เปิดให้ ฮาเเลนด์ โฉบตัดหน้า โกเมซ ที่ยืนรอบอลกระโดดยิงผ่าน เคเลเฮอร์ เข้าไป เเมนฯ ซิตี้ ออกนำ 1-0
การออกบอลวันนี้ เสี่ยงเล่นหน้าบ้านตัวเองซะเยอะ เเล้วพอไม่เเม่นมันก็กลายเป็นทำให้เจ้าบ้านรอดักเก็บง่ายๆเราได้ลุ้นบ้าง จากการตักสุดสวยของ ซาลาห์ ให้ เอลเลียตต์ จ่ายเร็วสุดท้ายเป็น นูนเญซ เเปชนเสาดังสนั่น นาที 20 เจ๊ติป เเทงหลอกทั้งเเผงให้ มิลเนอร์ เทิร์น ก่อนจ่ายย้อนให้ คาร์วัลโญ่ เเปเลียดเสียบมุม 1-1 ลิเวอร์พูลกลับคืนสู่เกม ผ่านครึ่งทางของครึ่งเเรกต้องบอกว่า รูปเกมเราเป็นรองชัดเจน เเต่พื้นที่สุดท้าย ซิตี้เองก็ฉกฉวยโอกาสไม่ได้ สวนทางกับเราที่ใช้โอกาสไม่เปลือง เกมรับฝั่งขวาไม่มีคนมาช่วยเหมือนซ้ายปล่อยให้ พาลเมอร์ ปั่นซะ จ่าเจมส์ หัวหมุน
มาติป บ่น บาจเซติช ที่ไม่ยอมมาซ้อนตอนทีมโดนโต้ ทำให้ เจ๊เเกต้องทิ้งตำเเหน่งถ่างมาปิดช่องเอง นี่เเหล่ะเหตุผลว่าทำไมต้องซื้อกลางรับมาช่วย เเฟ๊บ ส่วนพวกดาวรุ่งก็ต้องให้เก็บประสบการณ์ไปก่อน นาที 35 กุนโดกัน ยิงไม่ห่างติดเซฟ เคเลเฮอร์ ต่อเนื่องด้วย อาเก้ โหม่ง หมีน้อย พุ่งปัดได้อีก มิลเนอร์เจ็บ คล็อปป์ ส่ง เเนท มายืนเซ็นเตอร์ เเล้วโยก โจโก มายืนเเบ็คขวา 5 นาทีสุดท้าย ดาร์วิน ทะลุกับดักล้ำหน้าไปซัดก็ยังไม่ตรงกรอบ น้องเเนท สกัดซะ ฮาเเลนด์ไปไม่เป็น โคตรสะใจ! นาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บ ร็อบโบ้ เปิดฟรีคิกให้ นูนเญซ ชาร์จโล่ง หลุดทางเดิม เท้าไปทางไหนบอลไปทางนั้น
จบครึ่งเเรก ลิเวอร์พูล ยังบุกมายัน แมนฯ ซิตี้ 1-1 ในเกมที่ความผิดพลาดส่วนตัวเยอะ เเถมปล่อยพื้นที่เเถวสองให้ KDB ใช้บอลหักข้อโจมตีตลอด คล็อปป์ จะเเก้ยังไง ลุ้นกันต่อครึ่งหลังก่อนเริ่มครึ่งหลัง คล็อปป์ แก้เกมถอด คาร์วัลคอย่, บาจเซติซ ไปที่เป็นเป้าหมายเพรสซิ่งของเจ้าบ้านออก แล้วเอาประสบการณ์ของ อ็อก กับ ฟาบินโญ่ มาเติมสมดุลหน่อย แต่แล้ว 2-1 จนได้ ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้งจาก มาห์เรซ แต่เดอะค็อปไม่ยอมง่ายๆ ยิงมายิงคืน 2-2 ลิเวอร์พูล ตีเสมอทันควันจากการชาร์จจ่อๆของ ซาลาห์
ลิเวอร์พูล พัก เอลเลียตต์แล้วใช้ เฮนเดอร์สัน ลงมาแพ็คแดนกลาง นาที 58 เจ็บไม่จำ เดอ บรอยด์ได้ตั้งป้อมครอสคนเดียวโล่งๆไปเสาไกล สุดท้ายเป็น อาเก้ สอดมาโขกเต็มกบาล 3-2 เจ้าบ้านได้ประตูนำครั้งที่ 3 ของเกมหลังจากนั้นรูปเกมทรงๆ ซิตี้ ดึงเกมลงมาต่อบอลมากขึ้น ไม่ได้ผลีผลามบุกเท่าเดิม ส่วน ลิเวอร์พูลก็ยังหาจังหวะที่เข้าทำไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่ คล็อปป์ ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายถอด ติอาโก้ เเล้วส่ง เกอิต้า ลงมา
20 นาทีสุดท้าย ดาร์วิน ได้หลุดเดี่ยวอีกครั้ง คราวนี้ก็ยังบังคับลูกยิงให้เข้ากรอบไม่ได้ นอกจากจังหวะแอสซิสต์แล้ว วันนี้ไม่ใช่เกมที่ดีของเจ้าตัวเลย 5 นาทีสุดท้าย เดอ บรอยด์ ได้ปั่นเน้นๆบอลพุ่งจะเข้าเสาไกลอยู่เเล้ว เเต่ ฟาบินโญ่ ยังถอยไปคุมเส้นตีเข่าทิ้งได้ทัน ซ้ำดาบสองของ โฟเด้น ก็ติดเซฟ เคเลเฮอร์, ลิเวอร์พูล ยังอยู่! ช่วงท้ายยิ่งเล่นยิ่งเข้าทางเจ้าถิ่น ในเกมที่ทั้งสองทีมห่างสนามไปนาน มีความผิดพลาดเยอะเเบบนี้ เรากลับสร้างโอกาสได้น้อยกว่า เเถมไม่คมพอในจังหวะที่ควรเเซง เเละที่สำคัญที่สุดคือ ปล่อยพื้นที่ให้ KDB มีเวลาคิดจบเกม!!! ลิเวอร์พูล บุกพ่าย เเมนฯ ซิตี้ 3-2 หยุดเส้นทางการป้องกันเเชมป์ไว้ที่รอบ 16 ทีม